กองยานพาหนะไฮโดรเจนมีราคาแพงกว่าการบำรุงรักษามากกว่าแบตเตอรี่และดีเซล – CleanTechnica

ลงชื่อเข้าใช้เพื่อรับข่าวสาร อัพเดทข่าวสารรายวันจาก CleanTechnica ในอีเมล หรือ ติดตามเราบน Google News!

---

สิ่งที่น่าสนใจอย่างหนึ่งที่ฉันทำคือการเข้าร่วมกลุ่มตรวจสอบสำหรับการศึกษาในยุโรปเกี่ยวกับการเปรียบเทียบและการจำลองการลดการปล่อยคาร์บอนของยานพาหนะหนัก นั่นหมายความว่า เหนือสิ่งอื่นใด ฉันกำลังพูดถึงสมมติฐานที่ใช้อยู่

เนื่องจากบทความนี้อยู่ระหว่างการทบทวนและมีการทดสอบและปรับปรุงสมมติฐาน ฉันจะไม่ระบุผู้เขียนหรือองค์กรในขณะนี้ สิ่งนี้ไม่เกี่ยวกับว่าผิดหรือถูก แต่เกี่ยวกับข้อสันนิษฐานต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการบำรุงรักษายานพาหนะเซลล์เชื้อเพลิงขนาดใหญ่ที่ไม่ผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียด แต่ยังมีการศึกษาจำนวนมากที่ถือว่าน่าเชื่อถือ

เริ่มจากหลักการแรกกันก่อน ยานพาหนะเซลล์เชื้อเพลิงสำหรับงานหนัก เช่น รถบรรทุกขนส่งสินค้าหรือรถโดยสารประจำทางเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ซึ่งมีส่วนประกอบของขบวนขับเคลื่อนเซลล์เชื้อเพลิงเพิ่มเติม นั่นหมายความว่าระบบส่งกำลังจากแบตเตอรี่มีแบตเตอรี่ ระบบชาร์จไฟฟ้าที่ไม่มีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวได้ ยกเว้นแผ่นปิดเหนือปลั๊ก หน่วยจัดการพลังงานเพื่อจ่ายไฟฟ้าผ่านสายไฟไปยังมอเตอร์ และมอเตอร์ มีเซ็นเซอร์ ระบบควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ และอื่นๆ ที่คล้ายกัน แต่มีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวน้อยมากและต้องการการบำรุงรักษาน้อยมาก ที่เกิดจากการศึกษาการบำรุงรักษารถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ล้วนๆ

รถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงคือรถยนต์ไฮบริดไฮโดรเจนที่ใช้แบตเตอรี่ โดยเพิ่มถังไฮโดรเจนบรรยากาศที่ซับซ้อน 700 หรือถังไฮโดรเจนเหลวที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นพร้อมเซ็นเซอร์ความดันและระบบบรรเทา ระบบการเคลื่อนที่ของเชื้อเพลิงไฮโดรเจนที่ซับซ้อนซึ่งต้องรับมือกับการเปลี่ยนแปลงแรงดันขนาดใหญ่มากในกรณีของถังแรงดันหรือปริมาตรมากและ ด้วยเหตุนี้ ความดันจึงเปลี่ยนแปลงเมื่อไฮโดรเจนเหลวถูกทำให้อุ่นเป็นก๊าซ ความท้าทายในการจัดการความร้อนที่มีขนาดใหญ่มาก และด้วยเหตุนี้เซ็นเซอร์การจัดการความร้อน แอคทูเอเตอร์ และส่วนประกอบในทั้งสองกรณี เซลล์เชื้อเพลิงที่มีราคาแพงและจำกัดอายุการใช้งานซึ่งต้องใช้ไฮโดรเจนบริสุทธิ์และอากาศที่สะอาด ปริมาณอากาศเข้า และระบบกรองผลลัพธ์ และระบบไอเสียสำหรับเคลื่อนย้ายน้ำผลลัพธ์จากเซลล์เชื้อเพลิงออกจากยานพาหนะโดยไม่กลายเป็นน้ำแข็ง จึงเป็นวิธีแก้ปัญหาความร้อน

แผนภาพแสดงกระบวนการจัดการอากาศซึ่งไม่จำเป็นสำหรับยานพาหนะไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ ควรทำให้ชัดเจนว่าส่วนประกอบเพิ่มเติมของรถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงนั้นไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย มีจุดที่อาจเกิดความล้มเหลวอีกหลายจุดและยังมีอีกหลายสิ่งที่ต้องมีการบำรุงรักษาตามกำหนดเวลา

ตัวอย่างที่ใกล้เคียงที่สุดคือรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด ข้อมูลจากยานพาหนะขนาดเล็กแสดงให้เห็นว่าการบำรุงรักษาระบบขับเคลื่อนมีค่าใช้จ่ายสูงกว่ารถยนต์ไฮบริดมากกว่ารถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรีเพียงอย่างเดียว ใกล้เคียงกับรถยนต์สันดาปภายใน

สิ่งหนึ่งที่ฉัน วิพากษ์วิจารณ์ การศึกษาเกี่ยวกับรถบรรทุกที่มีข้อบกพร่องอย่างลึกซึ้งของสภาระหว่างประเทศว่าด้วยการขนส่งที่สะอาดในปีที่แล้วคือ มีการปรับปรุงต้นทุนการบำรุงรักษาอย่างมีนัยสำคัญสำหรับรถบรรทุกระบบขับเคลื่อนด้วยไฮโดรเจน และไม่มีการปรับปรุงสำหรับรถบรรทุกไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ ในความเป็นจริง พวกเขาสันนิษฐานว่ารถบรรทุกสำหรับงานหนักระยะไกล ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวที่บางองค์กรยังคงหวังว่าจะมีเซลล์เชื้อเพลิง จะมีค่าบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ใกล้เคียงกันมากหลังปี 2030 และค่าบำรุงรักษาเทียบเท่ากับรถบรรทุกดีเซลในทันที

ตัวเลขทั้งหมดเป็นเงินยูโรต่อ 100 กิโลเมตร

ตอนที่ฉันตรวจสอบครั้งแรก ฉันเกาหัวของฉันเกี่ยวกับการให้ประโยชน์ของข้อสงสัยกับการเจริญเติบโตของรถบรรทุกเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนและรถบรรทุกไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ ท้ายที่สุดแล้ว รถบัสเซลล์เชื้อเพลิงได้เริ่มใช้งานทั่วโลกในการทดลองมาตั้งแต่ปี 2000 และรถยกเซลล์เชื้อเพลิงมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น รถบรรทุกและรถโดยสารไฟฟ้าแบตเตอรี่ค่อนข้างใหม่

แต่ตอนนี้ฉันกำลังเกาหัวว่าทำไมทุกคนถึงเชื่อว่ายานพาหนะเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนขนาดใหญ่จะมีการบำรุงรักษาต่ำเลย

ฉันได้รวบรวมข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับค่าบำรุงรักษา บริษัทผู้ให้บริการกองเรือโป ประเทศฝรั่งเศส ทำให้ชัดเจน เมื่อพวกเขาเลิกใช้รถเมล์ไฮโดรเจนในปี 2023 หลังจากใช้งานมาสี่ปี พบว่ามีการบำรุงรักษาสูงมาก และการดูแลรักษาให้วิ่งต่อไปถือเป็นความท้าทายอย่างต่อเนื่อง

“สถานีการผลิตมีปัญหามากกว่าที่คาดไว้ และรถโดยสารก็มีการขัดข้องเพียงเล็กน้อยมาก สำหรับฉัน ฉันใช้เวลาสามในสี่ของวันของฉันที่นั่นถึงแม้จะเป็นเพียงหนึ่งใน 17 บรรทัดก็ตาม!”

ในทำนองเดียวกัน ประสบการณ์ของ Whistler, BC จากทศวรรษก่อนหน้านี้ที่พบ ค่าบำรุงรักษาสองเท่าต่อบัลลาร์ดเอง

จากข้อมูลของ Ballard Power Systems ของ Burnaby ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องยนต์เซลล์เชื้อเพลิง รถโดยสารไฮโดรเจนของ Whistler มีราคาค่าบำรุงรักษา 1.34 เหรียญสหรัฐฯ ต่อกิโลเมตร เทียบกับ 65 เซนต์ต่อกิโลเมตรสำหรับรถโดยสารที่ใช้น้ำมันดีเซล

ผู้ให้บริการรถบัสสองรายซึ่งแยกจากกันเป็นเวลาหนึ่งทศวรรษและหนึ่งมหาสมุทร ต่างก็มีประสบการณ์ที่เหมือนกันกับรถโดยสารจากผู้ผลิตที่แตกต่างกัน แต่ถึงกระนั้นก็เป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ หากนั่นคือข้อมูลทั้งหมด ฉันจะตัดมันออกจากประสบการณ์ที่ไม่ดีสองสามอย่าง

แต่เมื่อผู้บริหารฝ่ายขาย OEM รางรถไฟของ Stadler ในเยอรมนีต้องทำสิ่งนี้ พูดถึงสินค้าของตัวเองฉันคิดว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น

“นอกจากนี้ เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนยังต้องการการบำรุงรักษามากกว่าแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียว โดยต้องเปลี่ยนใหม่โดยเฉลี่ยภายในสามปี

“ด้วยเหตุนี้และถังไฮโดรเจนบนเรือ ความพยายามในการบำรุงรักษาจึงซับซ้อนกว่าอย่างแน่นอนเมื่อเทียบกับรถไฟที่ใช้แบตเตอรี่” Obst อธิบาย พร้อมเสริมว่ารถไฟไฮโดรเจนยังต้องใช้แบตเตอรี่สำหรับพลังงานสำรองด้วย”

ด้วยเหตุนี้ เมื่อฉันเห็นสมมติฐานด้านค่าบำรุงรักษาที่ต่ำมากในการศึกษาที่ฉันกำลังทบทวน ฉันจึงจัดเตรียมเอกสารนี้และแนะนำว่าสมมติฐานด้านค่าบำรุงรักษาที่เกือบจะเหมือนกันนั้นไม่เหมาะสม หัวหน้านักวิจัยชี้ไปที่แหล่งที่มา ฉันก็เลยไปที่นั่น เป็นการศึกษาแบบคณะทำงานชาวเยอรมัน ในลักษณะเดียวกับการศึกษา I ประเมินเมื่อสองสามเดือนก่อน.

การศึกษานี้แปลโดยหน้าเว็บออนไลน์ที่มีประโยชน์มากซึ่งจะส่งอีเมลขอร้องให้ฉันให้เงินพวกเขาตลอดไปคือปี 2020 รายงานการประชุมเชิงปฏิบัติการการเปลี่ยนการขับเคลื่อนของยานพาหนะเพื่อการพาณิชย์: วิธีลดคาร์บอนของรถบรรทุกที่ยากขึ้นโดยมุ่งเน้นที่การใช้พลังงานไฟฟ้า จากเวทีแห่งชาติของเยอรมนี: ความพยายามแห่งอนาคตของการเคลื่อนไหว

ฉันเจาะลึกสิ่งนั้นโดยหวังว่าจะพบการอ้างอิงถึงการศึกษาและข้อมูลเชิงประจักษ์ สิ่งที่ฉันพบคือนักวิจัยสามคนจากสองสถาบัน ได้แก่ Wolfgang Schade จาก M-Five และ Patrick Fieltsch และ Heike Flamig จากมหาวิทยาลัยเทคนิคแห่งฮัมบูร์กได้ให้การยืนยันการบำรุงรักษาโดยไม่มีการอ้างอิงหรือการอ้างอิง ไม่มีสิ่งใดในบรรณานุกรมที่สามารถอธิบายสิ่งเหล่านี้ได้เช่นกัน ฉันไม่พบการศึกษาภาษาเยอรมันอื่นๆ ที่อาจเป็นแหล่งที่มา แต่ Google เป็นภาษาเยอรมันไม่ใช่ทักษะสูงสุดของฉัน ดังนั้นฉันอาจพลาดบางสิ่งบางอย่างไป

ดังนั้นเราจึงมี ICCT, M-Five และ TUHH ทั้งหมดที่ยืนยันสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นตัวเลขต่ำสำหรับการบำรุงรักษา และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลหรือการศึกษาใดที่สำรองข้อมูลไว้

ฉันกลับไปที่การศึกษาวิจัย ICCT TCO เพื่อดูตัวเลขการบำรุงรักษา และรายงานนี้อ้างอิงถึงสิ่งพิมพ์อีกฉบับในปี 2023 โดยผู้เขียนหลัก ดังนั้นฉันจึงไปดูการศึกษาครั้งนั้น ชี้ไปที่รายงานของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เดวิสจากปี 2022 โดย Wang และคณะ การประมาณค่าบำรุงรักษาและซ่อมแซมสำหรับรถบรรทุกหนักที่ใช้แบตเตอรี่ไฟฟ้าและเซลล์เชื้อเพลิง.

มันมีข้อมูลหรือไม่? ไม่ ไม่ มันไม่ได้ โดยแสดงรายการรายงานที่ดึงมา โดยระบุอย่างชัดเจนว่าไม่มีข้อมูลที่จะดึงออกมา และทุกคนต่างสันนิษฐานว่ารถบรรทุกเซลล์เชื้อเพลิงจะมีขนาดพอๆ กันกับรถบรรทุกไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่หรืออาจจะแพงกว่าเล็กน้อย

จนถึงตอนนี้ ฉันมีรายงานกว่าครึ่งโหลในสองทวีปในสองภาษา และไม่พบอะไรเลยนอกจากการคาดเดา แต่ฉันมีสองคำพูดจากผู้ให้บริการรถบัส ซึ่งเป็นประเภทยานพาหนะที่อยู่ติดกันมากและคล้ายกับรถบรรทุกหนักที่มีรอบการทำงานสูง ห่างกันหนึ่งทศวรรษ ทำให้เห็นได้ชัดว่ามีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่สูงมาก และราคาจากผู้บริหาร OEM ของรถไฟที่ ทำให้ชัดเจนว่าค่าบำรุงรักษาผลิตภัณฑ์เซลล์เชื้อเพลิงของเขาก็สูงกว่ามากเช่นกัน ในความเป็นจริง เขาบอกว่าจะไม่มีใครซื้อมัน เว้นแต่จะมีการร้องขอข้อเสนออย่างชัดเจนให้มีรถไฟไฮโดรเจนและไม่มีอะไรอื่นอีก

สิ่งนี้ทำให้ฉันต้องไปดูข้อมูลการบำรุงรักษารถบัสเซลล์เชื้อเพลิง ด้วยความหวังว่า แม้จะมีความล้มเหลวทั้งหมดที่ถูกกวาดไปอยู่ใต้พรมในรอบ 25 ปีที่รถเมล์ไฮโดรเจน ได้ถูกทดลองและละทิ้งในสถานที่ต่างๆ มากมายทั่วโลก บางคนคงจะเก็บข้อมูลบางอย่างไว้จริงๆ

และแล้ว แคลิฟอร์เนียก็ผ่านเข้ามา เช่นเคยกับสหรัฐอเมริกา พวกเขาเผยแพร่ทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเอง ทำให้นักวิเคราะห์เช่นฉันพยายามคาดการณ์สถานที่ที่มีงบประมาณต่ำกว่ามากหรือความรู้สึกใดก็ตามที่ทุกคนจะใส่ใจเกี่ยวกับพวกเขา

ฉันพบการศึกษา 3 เรื่องเกี่ยวกับกลุ่มรถโดยสารในองค์กรขนส่ง 3 แห่งในแคลิฟอร์เนีย

การศึกษา OSTI ของสหรัฐอเมริกา ของรถโดยสารเซลล์เชื้อเพลิงสิบคันในโอ๊คแลนด์ แคลิฟอร์เนีย ตลอดทั้งปี 2020 พบว่าการบำรุงรักษาโดยเฉลี่ยสำหรับระยะทางที่เดินทางนั้นสูงกว่าค่าบำรุงรักษาสำหรับรถโดยสารดีเซลมาก ประมาณ 59 เซนต์ต่อไมล์ เทียบกับ 35 เซนต์ต่อไมล์ บังเอิญว่าราคาดังกล่าวใกล้เคียงกับกลุ่มเครื่องยนต์ดีเซลที่ใช้แบตเตอรี่ไฮบริดซึ่งมีราคาอยู่ที่ 62 เซ็นต์

ศึกษา จากแคลิฟอร์เนียตอนใต้โดย NREL ของรถโดยสารเซลล์เชื้อเพลิง 10 คันเป็นเวลา 16 เดือน พบว่าต้นทุนต่อระยะทางที่เดินทางต่ำกว่าการศึกษาของ OSTI ที่ 42 เซนต์ต่อไมล์ แต่ก็ยังสูงกว่าราคาพื้นฐานดีเซลที่ 35 เซนต์ต่อไมล์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบำรุงรักษาที่เกี่ยวข้องกับระบบขับเคลื่อนอยู่ที่ 37.3% ของทั้งหมด

การศึกษาของ NREL ครอบคลุมการบำรุงรักษารถบัสเซลล์เชื้อเพลิงเป็นเวลา 2.5 ปีในเทศมณฑลริเวอร์ไซด์ ซึ่งเป็นเขต Sunline County ที่ดำเนินกิจการมายาวนาน เมืองที่อยู่ติดกันของ Coachella พบว่าค่าบำรุงรักษาสำหรับกลุ่มรถเซลล์เชื้อเพลิงสูงกว่ากลุ่มรถที่ใช้ CNG รุ่นเก่าถึง 56 เท่าในช่วงดังกล่าว ซึ่งอยู่ที่ XNUMX เซนต์ต่อไมล์หรือ ใกล้กับการศึกษาครั้งแรกมาก

การค้นหาเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยพบว่าไม่มีข้อมูลเชิงประจักษ์อื่น ๆ ในภาษาอังกฤษเกี่ยวกับค่าบำรุงรักษา ฉันดูเอกสารรายการรถยกไฮโดรเจนสองสามฉบับ แต่พวกเขาไม่ได้แยกแยะค่าบำรุงรักษาหรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในทางที่เป็นประโยชน์ โปรดทราบว่ารถยกไฮโดรเจนเกือบทั้งหมดประมาณ 50,000 คันอยู่ในศูนย์กระจายสินค้าในสหรัฐอเมริกาซึ่งได้รับเงินจำนวนมากจาก DOE ของสหรัฐอเมริกาสำหรับสถานีเติมเชื้อเพลิงไฮโดรเจนและการซื้อรถยกครั้งแรก และอีกประการหนึ่ง มีการซื้อรถยกไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ 1.2 ล้านคันทั่วโลกในปี 2022 เพียงปีเดียว

ตอนนี้ชุดข้อมูลจะเป็นดังนี้:

• การศึกษากลุ่มรถโดยสารจากแคลิฟอร์เนียรวมระยะเวลาแปดปีระหว่างกลุ่มยานพาหนะสามกลุ่ม พบว่าค่าบำรุงรักษาสูงกว่ากลุ่มรถดีเซลพื้นฐานมาก
• บทความที่ตีพิมพ์พร้อมคำพูดจากผู้ให้บริการกองเรือของ Whistler, BC และ Pau ในฝรั่งเศส แสดงให้เห็นชัดเจนว่าค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษากองรถโดยสารของตน ทั้งประสบการณ์ของ Whistler ที่มีอายุ 14 ปี และประสบการณ์ Pau ที่มีอายุหนึ่งปีนั้นสูงมาก ทศวรรษที่ไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ ไม่ได้บ่งบอกถึงอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโต
• ผู้บริหารของ Stadler บันทึกไว้ว่าค่าบำรุงรักษารถไฟรุ่นใหม่ของพวกเขาสูงกว่ามาก

สำหรับฉันสิ่งที่ดูเหมือนจะชัดเจนคือมีนักวิจัยด้านการขนส่งจำนวนหนึ่งที่คาดเดาตามตัวอักษรไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่ารถบรรทุกไฮโดรเจนที่มีแนวโน้มที่จะล้มเหลวและซับซ้อนกว่านั้นชัดเจนจะเหมือนกับรถบรรทุกไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ง่ายกว่ามากหรืออาจจะเพียงเล็กน้อย แพงมาก. นอกจากนี้ พวกเขาทั้งหมดยังสันนิษฐานว่าค่าบำรุงรักษาถูกกว่ารถบรรทุกดีเซลมาก ซึ่งอย่างน้อยพวกเขาก็มีระบบส่งกำลังที่ชี้ไป

ดูเหมือนไม่มีใครดูข้อมูลการบำรุงรักษารถบัสไฮโดรเจนที่อยู่ติดกันซึ่งมีประวัติยาวนานถึง 25 ปี หรือดูแถลงการณ์ของผู้ให้บริการรถไฟ แม้ว่าคำพูดดังกล่าวจะเพิ่งเกิดขึ้นไม่นานก็ตาม ดูเหมือนไม่มีใครไปหา OEM ที่เคยทดลองใช้รถบรรทุกไฮโดรเจนและถามถึงประสบการณ์ในการบำรุงรักษา ดูเหมือนว่าไม่มีใครสังเกตเห็นการเรียกเก็บเงินค่าเปลี่ยนเซลล์เชื้อเพลิงมูลค่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ที่เจ้าของรถฮุนไดมีและเริ่มถามคำถาม

เพื่อเป็นการย้ำเตือนว่ารถโดยสารเหล่านี้เกือบทั้งหมดมีเซลล์เชื้อเพลิง Ballard อยู่ในตัว ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ Ballard ขายทั่วโลกมานานกว่า 25 ปี ขาดทุน 1.3 พันล้านดอลลาร์ตั้งแต่ปี 2000. นี่ไม่ใช่เทคโนโลยีที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แต่เพียงแต่ล้มเหลวในการทำการค้าในวงกว้างหลังจากการทดลองแต่ละครั้ง

เช่นเดียวกับสมมุติฐานของไฮโดรเจนสีเขียวราคาถูก สมมติฐานของรถบรรทุกเซลล์เชื้อเพลิงที่ต้องบำรุงรักษาต่ำไม่ได้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาอย่างละเอียดแม้แต่น้อย นักวิจัยด้านการขนส่งสินค้าทางถนนในช่วงปี 2010 ได้ตั้งสมมติฐานที่ไม่มีมูลความจริงและต่ำ และในปี 2020 สมมติฐานเหล่านั้นถือว่าใช้ได้เนื่องจากมีการอ้างถึงบ่อยครั้ง

• เนื้อหาที่ขับเคลื่อนด้วย SEO และการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ รับการขยายวันนี้
• PlatoData.Network Vertical Generative Ai เพิ่มพลังให้กับตัวเอง เข้าถึงได้ที่นี่.
• เพลโตไอสตรีม. Web3 อัจฉริยะ ขยายความรู้ เข้าถึงได้ที่นี่.
• เพลโตESG. คาร์บอน, คลีนเทค, พลังงาน, สิ่งแวดล้อม แสงอาทิตย์, การจัดการของเสีย. เข้าถึงได้ที่นี่.
• เพลโตสุขภาพ เทคโนโลยีชีวภาพและข่าวกรองการทดลองทางคลินิก เข้าถึงได้ที่นี่.
• ที่มา: https://cleantechnica.com/2024/01/26/hydrogen-fleets-are-much-more-expensive-to-maintain-than-battery-even-diesel/